ก่อนที่ตัวละครในวรรณคดีหลาย ๆ เรื่องจะถือกำเนิดขึ้นนั้น บิดามารดาของตัวละครนั้น ๆ มักจะฝันก่อนเสมอ ๆ และมักจะให้โหรทำนายความฝันว่าตนเองจะได้บุตรธิดาที่มีลักษณะอย่างไร
วันนี้เรามาดูตัวอย่างความฝันของบิดามารดาของตัวละครในวรรณคดีเรื่องต่าง ๆ ว่า พวกเขาเหล่านั้นฝันว่าอย่างไรบ้าง และมีการทำนายฝันว่าอย่างไรบ้าง มาดูตัวอย่างความฝันกันได้เลยค่ะ
ความฝันของนางเทพทอง (กำเนิดขุนช้าง)
จากบทเสภาขุนช้างขุนแผน : สุนทรภู่
" ฝ่ายนางเทพทองนั้นนอนหลับ พลิกกลับก็เพ้อละเมอฝัน
ว่าช้างพลายตายกลิ้งตลิ่งชัน พองขึ้นหัวนั้นเน่าโขลงไป
ยังมีนกตะกรุมหัวเหม่ บินเตร่เร่มาแต่ป่าใหญ่
อ้าปากคาบช้างแล้ววางไป เข้าในหอกลางที่นางนอน
ในฝันนั้นว่านางเรียกนก เชิญเจ้าขรัวหัวถกมานี่ก่อน
นางคว้าได้ตัวเจ้าหัวกล้อน กอดนกกับช้างนอนสบายใจ
ฯลฯ
ขุนศรีวิชัยจึงทำนายฝัน อ้อเจ้าจะมีครรภ์หาเป็นไรไม่
ลูกของเราจะเป็นชายทำนายไว้ เหมือนนกตะกรุมตัวใหญ่คาบช้างมา
จะบริบูรณ์พูนสวัสดิ์แล้วเจ้าพี่ แต่ลูกของเรานี้จะขายหน้า
หัวล้านแต่กำเนิดเกิดมา จะมั่งมีเงินตรากว่าห้าเกวียน ..."
ความฝันของนางทองประศรี (กำเนิดขุนแผน)
จากบทเสภาขุนช้างขุนแผน : สุนทรภู่
" จะมากล่าวถึงนางทองประศรี นอนด้วยสามีในเรือนใหญ่
นิมิตฝันนั้นว่าท้าวสหัสนัยน์ ถือแหวนเพชรเม็ดใหญ่เหาะดั้นมา
ครั้นถึงจึงยื่นแหวนนั้นให้ นางรับแหวนไว้ด้วยหรรษา
แสงเพชรส่องวาบปราบเข้าตา ตื่นผวาคว้าทั่วปลุกผัวพลัน ...
ฯลฯ
ฝันว่าได้ธำรงค์วงวิเศษ ของโกสีย์ตรีเนตรอันเฉิดฉาย
เพชรรัตน์อร่ามงามเพริศพราย บรรยายว่าเป็นสิ่งมีมงคล
จะมีครรภ์ลูกนั้นจะเป็นชาย ดังทหารพระนารายณ์มาปฏิสนธิ์
กล้าหาญการณรงค์คงทน ฤทธิรณปราบทั่วทั้งแดนไตร
ซึ่งว่าเพชรรัศมีสีกล้า ภายหน้าจะได้เป็นทหารใหญ่
มียศศักดิ์เป็นพระยาข้าใช้ ร่วมพระทัยทรงธรรม์พระพันปี ..."
ความฝันของนางศรีประจัน (กำเนิดนางพิมพิลาไลย )
จากบทเสภาขุนช้างขุนแผน : สุนทรภู่
" มาจะกล่าวถึงนางศรีประจัน เที่ยงคืนนอนฝันในโคหา
ว่าพระพิศณุกรรม์เหาะดั้นฟ้า ถือแหวนประดับมาสวมนิ้วนาง
แล้วก็กลับไปสถานพิมานมาศ แสนสนิทพิศวาสจนสว่าง
ตื่นลุกปลุกผัวยิ้มหัวพลาง ล้างหน้าแล้วพลันแก้ฝันไป ..."
ฯลฯ
" จึงทำนายฝันไปมิได้ช้า ว่าเจ้าฝันนั้นหนาจะมีครรภ์
ได้แหวนประดับลูกจะเป็นหญิง รูปร่างงามจริงตละแกล้งสรร
ด้วยเป็นแหวนของพระพิศณุกรรม์ จะเป็นช่างใครนั้นไม่ทันเลย ..."
ความฝันของนางวันทอง (กำเนิดพลายงาม)
จากบทเสภาขุนช้างขุนแผน : สุนทรภู่
" น้องฝันว่าได้เอื้อมถึงอากาศ ประหลาดเด็ดสุริยาลงมาล่าง
ถนอมชมอมชื่นแล้วกลืนพลาง สว่างทั่วตัวน้องถนัดตา
แล้วยังมีชายหนึ่งนั้นสามารถถ องอาจแคะควักเอาตาขวา
ทิ้งไปให้มืดทุกเวลา น้องนี้โศกมาอนาถใจ
ดวงตาควักไปไม่ได้คืน กลับเอาดวงอื่นมายื่นให้
มืดมัวชั่วช้ากว่าเก่าไป จะดีร้ายฉันใดช่วยบอกมา ..."
ฯลฯ
" ขุนแผนฟังฝันให้หวั่นจิต คิดเห็นทั้งคุณโทษเป็นหนักหนา
ดวงใจเจ้าจะได้ซึ่งลูกยา เหมือนฝันว่าได้ชมพระอาทิตย์
จะสิ้นความทุกข์ร้อนผ่อนวิโยค ที่ร้อนโรคสิ่งไรจะไป่ปลิด
ลูกในครรภ์เจ้านั้นจะเรืองฤทธิ์ เป็นคู่คิดควรเราจะพึ่งพา
ที่ฝันว่าดวงตากระเด็นจาก จะลำบากมากมายไปภายหน้า
ครั้นจะบอกออกอรรถให้ชัดมา กลัวว่าวันทองจะหมองใจ..."
ความฝันของท้าวยศวิมล (กำเนิดพระสังข์)
จากบทละครนอกเรื่องสังข์ทอง : พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
" ฝันว่าอาทิตย์ฤทธิ์รงค์ ตกลงตรงพักตร์ข้างทักษิณ
ดาวน้อยพลอยค้างอยู่กลางดิน เราผินพักตร์ฉวยเอาด้วยพลัน
มือซ้ายได้ดวงดารา มือขวาคว้าได้สุริย์ฉัน
แล้วหายไปแต่พระสุริยัน ต่อโศกศัลย์ร่ำไห้จึงได้คืน
สักสามยามหย่อนค่อนรุ่ง เราสะดุ้งคว้าหาผวาตื่น
ดีร้ายทายตามอย่ากล้ำกลืน ตาหมื่นโหราจงว่าไป "
ฯลฯ
" บัดนั้น ยอดโหรหามีเสมอไม่
คิดคูณหารดูรู้แจ้งใจ ภูวไนยจะเกิดบุตรา
จึงทูลทายทำนายตามสุบิน ว่าพระปิ่นนางในฝ่ายขวา
จะทรงครรภ์พระราชบุตรา บุญญาธิการมากมี
แต่จะพลัดพรากไปจากวัง ภายหลังจึงจะคืนกรุงศรี
ดาราคือพระบุตรี จะเกิดที่สนมอันควร
ฝันว่าพระทรงโศกา จะได้ชมลูกยาเกษมสรวล
ทายตามสุบินสิ้นกระบวน ถี่ถ้วนจงทราบพระบาทา "
ความฝันของนางประไหมสุหรีเมืองกุเรปัน (นางนิหลาอระตานารี) (กำเนิดอิเหนา)
จากกลอนบทละครเรื่องอิเหนา : พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย
" ราตรีเข้าที่พระบรรทม ด้วยบรมนรินทร์ปิ่นปักษ์
บังเกิดนิมิตฝันอัศจรรย์นัก ว่านงลักษณ์นั่งเล่นที่ชาลา
มีพระสุริยงทรงกลด ชักรถมาในเวหา
แจ่มแจ้งแสงสว่างทั้งโลกา ตกลงตรงหน้านางรับไว้
ครั้นนิทราตื่นฟื้นองค์ ให้หลากจิตพิศวงสงสัย
จึ่งทูลพระภัสดาทันใด โดยในนิมิตเยาวมาลย์ "
ฯลฯ
" บัดนั้น ทั้งสี่โหราอัชฌาสัย
พิเคราะห์ดูเห็นแจ้งไม่แคลงใจ ต่างทูลภูวไนยไปพลัน
อันพระสุบินนี้ดีนัก จะได้โอรสรักเป็นแม่นมั่น
อาจองทรงเดชดั่งสุริยัน ทุกนิเวศน์เขตขัณฑ์ไม่ต้านทาน
จะเป็นที่ดับเข็ญให้เย็นยุค ราษฎรจะได้สุขเกษมศานต์
ซึ่งนิมิตยามจันทร์วันอังคาร จวนเวลากาลอโณทัย
สิ่งใดพระองค์ประสงค์นัก ตำราว่าจักพลันได้
แต่ในสองเดือนถ้าเคลื่อนไป พระอย่าไว้ชีวิตโหรา "
..........