๑. การอธิบาย เป็นการชี้แจง ขยายความให้เนื้อหาละเอียดชัดเจน โดยมีเทคนิคการอธิบายหลายแบบ เช่น การอธิบายตามลำดับขั้นตอน การอธิบายด้วยการให้คำนิยามหรือคำจำกัดความ เป็นการให้ความหมายของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การอธิบายโดยการยกตัวอย่าง การอธิบายโดยการเปรียบเทียบ การอธิบายโดยการชี้สาเหตุและผลลัพธ์ที่สัมพันธ์กัน เช่น การอธิบายการทำอาหาร การให้ความหมายของสิ่งต่าง ๆ การอธิบายเรื่องต่าง ๆ คู่มือการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ
๒. การบรรยาย เป็นการบอกกล่าว เล่าเรื่อง เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ต่อเนื่องกัน โดยชี้ให้เห็นถึงสถานที่ บุคคลที่เกี่ยวข้อง สภาพแวดล้อม เพื่อให้ผู้รับสารเข้าใจเนื้อหาอย่างชัดเจน เกิดภาพโดยรวมว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมื่อใด อย่างไร อาจใช้สำหรับการเขียนตำรา หรือเนื้อหาที่เกี่ยวกับวิชาการ เช่น เขาสร้างบ้านอยู่กลางป่าที่อุดมสมบูรณ์ ข้าง ๆ บ้านของเขามีไร่ข้าวโพดและไร่ส้มเป็นบริเวณกว้าง ทุก ๆ เช้าเขามักจะออกมาเดินเล่นในไร่ส้มพร้อมกับลูกชายของเขา
๓. การพรรณนา เป็นการกล่าวถึงเรื่องราว บุคคล สิ่งของ สถานที่ หรืออารมณ์อย่างละเอียด เป็นการพรรณนาสิ่งใดสิ่งหนึ่งเฉพาะส่วน อย่างละเอียด มีการเปรียบเทียบให้ผู้อ่านเกิดภาพ มักใช้ถ้อยคำสำนวนที่ไพเราะ เกินจริง ไม่ใช่ภาษาที่ใช้กล่าวถึงในชีวิตประจำวัน เช่น ในยามเช้าเมื่อแสงสีทองสาดแสงส่องกระทบกับหยดน้ำค้างที่ใสราวกับแก้วกลางเวหาที่ค้างอ้อยอิ่งอยู่บนยอดหญ้าสีเขียวสด ดูแล้วราวกับเพชรที่เปล่งแสงระยิบระยับอยู่บนพรมกำมะหยี่สีเขียวมรกต มองแล้วช่างงามยิ่งนัก
คงจะเห็นภาพและเห็นความแตกต่างของโวหารแต่ละชนิดแล้วนะคะ มาดูตัวอย่างข้อสอบกันเลยจ้า
๑. ข้อใดใช้การเขียนอธิบาย
๑. เต้าหู้มีกำเนิดมากว่า ๒,๐๐๐ ปี ในจีนแผ่นดินใหญ่ คนจีนถือว่าเต้าหู้เป็นอาหารที่มีคุณค่าสูง
๒. ตวงถั่วเหลือง นำมาแช่น้ำล้างให้สะอาดแล้วนำไปบด เสร็จแล้วกรอกกากออกจะได้น้ำเต้าหู้ดิบ
๓. เต้าหู้ราคาถูกแต่มีคุณค่าสูง คุณค่าทางโภชนาการที่โดดเด่นที่สุดของเต้าหู้คือโปรตีน
๔. เต้าหู้หลอดเป็นเต้าหู้เนื้อนิ่ม นิยมนำมาปรุงเป็นแกงจืด
๒. ข้อความต่อไปนี้ใช้วิธีอธิบายแบบใด
"การทำห่อหมกนั้นต้องใช้เวลานาน เตรียมใบตอง เจียนใบตองสำหรับห่อ เลือกใบยอที่ไม่อ่อนเกินไปมาฉีกเป็นชิ้น ๆ ปลาช่อนหรือปลาสวายแม่น้ำที่จะนำมาห่อหมกต้องแล่เอาแต่เนื้อ หัวกับพุงแยกไว้ต่างหาก น้ำพริกแกงที่ใช้ทำน้ำพริกแกงเผ็ด แต่ไม่ใส่เครื่องเทศ กะทิคั้นเอาแต่หัว รวมเครื่องปรุงใส่ลงในอ่าง คนจนขึ้น ตักใส่ใบตองห่อแล้วนำไปนึ่งจนสุก"
๑. ให้นิยาม ๒. ใช้ตัวอย่าง
๓. ชี้แจงตามลำดับขั้น ๔. เปรียบเทียบความเหมือนและแตกต่าง
๓. ข้อความนี้ใช้วิธีอธิบายแบบใด
"โอกาดะ เป็นวิธีการรักษาสุขภาพด้วยการใช้พลังธรรมชาติชำระล้างทั้งร่างกายและจิตใจ มีวิธีการหลากหลาย เช่น ใช้ศิลปะบำบัด บริโภคอาหารที่ปรุงจากผลิตภัณฑ์เกษตรธรรมชาติ ออกกำลังกายตามวิธีที่กำหนด ฯลฯ"
๑. นิยามและให้ตัวอย่าง ๒. นิยามและแนะแนวทางปฏิบัติ
๓. ชี้แจงตามลำดับขั้นตอนปฏิบัติ ๔. ชี้สาเหตุและผลลัพธ์ที่สัมพันธ์กัน
๔. ถ้าเรียงลำดับคำอธิบายวิธีการทำอาหารต่อไปนี้จนครบถ้วน ข้อใดเป็นขั้นตอนที่ต่อจากข้อ ๕ ตามโจทย์
๑. ต้มน้ำในหม้อด้วยไฟกลาง แล้วใส่ตะไคร้ใบมะกรูด
๒. ล้างหอยแมลงภู่ ปูม้า กุ้งและปลาหมึกให้สะอาด
๓. ปรุงรสด้วยน้ำปลา มะนาว พริกขี้หนู แล้วเสิร์ฟร้อน ๆ
๔. แล้วจึงใส่กุ้ง ปลาหมึกและเห็ดฟาง
๕. เมื่อน้ำเดือดจัดใส่หอยแมลงภู่และปูม้า
๑. ข้อ ๑ ๒. ข้อ ๒ ๓. ข้อ ๓ ๔. ข้อ ๔
๕. ข้อความต่อไปนี้ มีวิธีการเขียนตามข้อใด
" เต่าทะเลเป็นสัตว์เลือดเย็น มีกระดูกสันหลัง หายใจด้วยปอด มีกระดองปกคลุมร่างกายเพื่อป้องกันตัวเอง เต่าทะเลจะอาศัยเฉพาะในเขตร้อนและเขตอบอุ่น มีอายุเฉลี่ยประมาณ ๕๐ ปี บรรพบุรุษของเต่าเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในยุคดึกดำบรรพ์ ยุคเดียวกับไดโนเสาร์และมีวิวัฒนาการมาจนถึงปัจจุบัน"
๑. อธิบาย ๒. บรรยาย
๓. พรรณนา ๔. บรรยายและพรรณนา
๕. อธิบายและบรรยาย
๖. ข้อใดใช้การพรรณนาโวหาร
๑. คนหาปลาออกจากกระท่อมแต่เช้าตรู่ คล้องแหไว้กับท่อนแขน สะพายข้องตรงไปยังชายน้ำ
๒. คนหาปลาเดินเท้าเปล่าไปพร้อมแหในมือ ตาจ้องตรงไปยังผิวน้ำเบื้องหน้าอย่างสงบ
๓. ในม่านแสงสุดท้ายของดวงตะวัน คนทอดแหยืนเป็นเงาดำทะมึนอยู่ริมชายน้ำ
๔. นักท่องเที่ยวเฝ้าสังเกตการทอดแหอย่างตั้งใจ ก่อนจะเข้าไปขอดูว่าปลาในแหมีกี่ตัว
๗. ข้อใดไม่ใช่การเขียนพรรณนา
๑. น้ำตกช่วงสุดท้ายยังพุ่งลงมาเป็นสายกระทบลานหินกว้างสะท้อนแสงตะวันงามระยับตา
๒. น้ำตกสายนี้มีเสน่ห์ติดตาตรึงใจผู้มาเยือนด้วยสายธารที่ตกลงมาไหลรินโอบกอดลานหิน
๓. นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตากับฝูงผีเสื้อที่บินวนเวียนเหนือน้ำตกราวกับกลีบดอกไม้โปรยปราย
๔. หนุ่มสาวนิยมมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่น้ำตกแห่งนี้ จึงขนานนามน้ำตกนี้ว่า "น้ำตกลานรัก"
๘. ข้อใดไม่ใช่พรรณนาโวหาร
๑. ดอยหัวคำเป็นหมู่บ้านชาวเขาซึ่งแต่งกายด้วยสีสันงดงามราวกับลูกกวาดหลากสี
๒. ในหุบเขายังมีกลุ่มหมอกคลอเคลียภูเขาเหมือนเป็นทะเลขาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
๓. ช่วงฤดูหนาวทุ่งดอกบัวตองสีเหลืองอร่าม บานสะพรั่งเป็นพรมดอกไม้งดงามไปทั่วทั้งขุนเขา
๔. เราเดินทางจากตัวเมืองเชียงรายไปตามทางหลวงหมายเลข ๑๑๓๐ ประมาณ ๑ ชั่วโมงก็จะถึงดอยหัวแม่คำ
๙. ข้อความต่อไปนี้เป็นโวหารชนิดใด
"ก่อนจะถึงอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง รถของเราเลี้ยวเข้าจอดที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม หลายคนกระชากอุปกรณ์ถ่ายภาพออกมาให้ทันภาพของแสงวันใหม่ เบื้องหน้าเห็นทะเลหมอกขาวนวลกำลังอ้อยอิ่งในอ้อมกอดของขุนเขา ไกลออกไปเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวยืนเคียงตะวันราวกับสถูปของกาลเวลา"
๑. อธิบายและบรรยาย ๒. บรรยายและพรรณนา
๓. อธิบายและพรรณนา ๔. อุปมาและบรรยาย
๑๐. ข้อความต่อไปนี้ ข้อใดเป็นบรรยายโวหาร
๑. โชติเดินตรงเข้าไปในโบสถ์ เพราะได้ยินว่าที่นี่มีจิตรกรรมฝาผนังโบราณ
๒. ภาพเหนือประตูทางเข้าเป็นรูปแม่พระธรณีบีบมวยผมที่งดงามเหลือบรรยาย
๓. ถัดมาเป็นพญามารถูกคลื่นมหึมาซัดกระโชก
๔. มารแต่ละตนดิ้นรนหนีตายด้วยอาการหวาดผวา
๑๑. ข้อใดไม่ใช่การเขียนแบบบรรยาย
๑. ปลาหนักสามสิบกิโลกระแทกผิวน้ำเสียงดัง มันหงายท้องขึ้นมาครู่หนึ่งก่อนพลิกกลับ แล้วผลุบหายลงสู่ใต้น้ำ
๒. เขายังจำใบหน้าท่าทางของเธอได้อย่างติดตา เธอเป็นคนอ้วน หน้าอิ่ม แก้มแดงเรื่อเหมือนดอกหงอนไก่บาน
๓. รถยนต์คันหนึ่งเลี้ยวจากถนนใหญ่เข้ามาในซอยและจอดอยู่ใกล้ปากทางหลายนาที
๔. พ่อครัวรีบปีนขึ้นหลังคา อุ้มไอ้โต้งลงมาล่ามไว้ หยิบผ้าขนหนูออกมาเช็ดขนให้มัน
๑๒. ข้อใดใช้โวหารการเขียนต่างจากข้ออื่น
๑. เสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีดังขึ้น พร้อมกับเสียงที่ทุกคนเปล่งออกมาว่า "ทรงพระเจริญ" ก็ดังก้องไปทั่วบริเวณ
๒. มองไปทางไหนเห็นแต่สีเหลืองอร่ามสะพรั่งไปทั่วบริเวณ อาจมีสีอื่นบ้างจากร่มกั้นกางแดดดูเป็นสีกระดำกระด่างแซมปนบ้าง
๓. เสียงผู้คนตะโกนดังก้องไปทั่วว่า "ทรงพระเจริญ" แสงแดดที่แผดกล้ากลับรู้สึกอบอุ่น มีสายลมเย็น ๆ แผ่วผ่านมา
๔. เสียงเห่เรือก้องกังวานตามผืนน้ำ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็นที่สาดแสงสีเหลืองทองจับเป็นประกายบริเวณหมู่ยอดเจดีย์
ลองทำดูแล้ว มาตรวจคำตอบกันค่ะ
ข้อ ๑. ตอบ ๒ เป็นการอธิบายที่เป็นขั้นตอนชัดเจน ส่วนข้ออื่น ๆ เป็นการเขียนบรรยาย
ข้อ ๒. ตอบ ๓ เป็นการเขียนชี้แจงตามลำดับขั้นตอนของการทำห่อหมก
ข้อ ๓. ตอบ ๑ เป็นการเขียนอธิบายแบบการให้นิยามและตัวอย่าง สังเกตจากคำว่า เป็น (ให้นิยาม) และ คำว่า เช่น (การยกตัวอย่าง)
ข้อ ๔. ตอบ ๔ "แล้วจึงใส่กุ้ง ปลาหมึก และเห็ดฟาง" สำหรับความเห็นของผู้เขียน มองว่า อาจเรียง ลำดับเป็น ๑ ๒ ๕ ๔ ๓ หรือ ๒ ๑ ๕ ๔ ๓ ซึ่งลำดับที่ ๑ และ ๒ อาจสลับที่กันได้
แล้วแต่บริบท แล้วแต่จำนวนวัตถุดิบ หรือแล้วแต่ความคล่องของแม่ครัวจ้า ซึ่งเราไม่ต้อง
สนใจ เพราะโจทย์ต้องการทราบขั้นตอนที่ต่อจากข้อ ๕ เท่านั้น
ข้อ ๕. ตอบ ๑ เป็นการเขียนอธิบาย เพราะเป็นการให้ข้อมูลที่เป็นจริง แต่ไม่มีการเล่าเรื่องใด ๆ ทั้งสิ้น
ข้อ ๖. ตอบ ๓ เป็นการพรรณนา สังเกตจาก ในม่านแสงสุดท้ายของดวงตะวัน ส่วนข้ออื่น ๆ
เป็นการบรรยาย
ข้อ ๗. ตอบ ๔ เพราะเป็นการเขียนอธิบายชี้สาเหตุและผลลัพธ์ที่สัมพันธ์กัน คืดบอกที่มาของชื่อน้ำตก
ส่วนข้ออื่น ๆ เป็นการเขียนพรรณนา โดยมีข้อสังเกตดังนี้
๑. น้ำตกช่วงสุดท้ายยังพุ่งลงมาเป็นสายกระทบลานหินกว้างสะท้อนแสงตะวันงามระยับตา๒. น้ำตกสายนี้มีเสน่ห์ติดตาตรึงใจผู้มาเยือนด้วยสายธารที่ตกลงมาไหลรินโอบกอดลานหิน
๓. นักท่องเที่ยวจะได้ตื่นตากับฝูงผีเสื้อที่บินวนเวียนเหนือน้ำตกราวกับกลีบดอกไม้โปรยปราย
ข้อ ๘. ตอบ ๔ เป็นการใช้บรรยายโวหาร ส่วนข้ออื่นเป็นพรรณนาโวหาร มีข้อสังเกต ดังนี้
๑. ดอยหัวคำเป็นหมู่บ้านชาวเขาซึ่งแต่งกายด้วยสีสันงดงามราวกับลูกกวาดหลากสี๒. ในหุบเขายังมีกลุ่มหมอกคลอเคลียภูเขาเหมือนเป็นทะเลขาวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา
๓. ช่วงฤดูหนาวทุ่งดอกบัวตองสีเหลืองอร่าม บานสะพรั่งเป็นพรมดอกไม้งดงามไปทั่วทั้งขุนเขา
ข้อ ๙. ตอบ ๒ ใช้โวหารบรรยายและพรรณนา โดยข้อความแรกเป็นบรรยายโวหาร และข้อความที่
ขีดเส้นใต้ เป็นพรรณนาโวหาร
"ก่อนจะถึงอุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง รถของเราเลี้ยวเข้าจอดที่จุดชมวิวดอยกิ่วลม หลายคนกระชากอุปกรณ์ถ่ายภาพออกมาให้ทันภาพของแสงวันใหม่ เบื้องหน้าเห็นทะเลหมอกขาวนวลกำลังอ้อยอิ่งในอ้อมกอดของขุนเขา ไกลออกไปเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวยืนเคียงตะวันราวกับสถูปของกาลเวลา"
ข้อ ๑๐. ตอบ ๑ ส่วนข้ออื่น ๆ เป็นการใช้พรรณนาโวหาร แม้จะมีไม่มาก แต่ก็นับว่าเห็นภาพได้ชัดเจน
๒. ภาพเหนือประตูทางเข้าเป็นรูปแม่พระธรณีบีบมวยผมที่งดงามเหลือบรรยาย๓. ถัดมาเป็นพญามารถูกคลื่นมหึมาซัดกระโชก
๔. มารแต่ละตนดิ้นรนหนีตายด้วยอาการหวาดผวา
ข้อ ๑๑. ตอบ ๒ เป็นการเขียนพรรณนา เพราะมีการเปรียบเทียบ ทำให้เห็นภาพชัดเจน ดังนี้
๒. เขายังจำใบหน้าท่าทางของเธอได้อย่างติดตา เธอเป็นคนอ้วน หน้าอิ่ม แก้มแดงเรื่อเหมือนดอกหงอนไก่บาน
ข้อ ๑๒. ตอบ ๑ เป็นการใช้บรรยายโวหาร ส่วนข้ออื่นเป็นการใช้พรรณนาโวหาร สังเกตจาก
๒. มองไปทางไหนเห็นแต่สีเหลืองอร่ามสะพรั่งไปทั่วบริเวณ อาจมีสีอื่นบ้างจากร่มกั้นกางแดดดูเป็นสีกระดำกระด่างแซมปนบ้าง
๓. เสียงผู้คนตะโกนดังก้องไปทั่วว่า "ทรงพระเจริญ" แสงแดดที่แผดกล้ากลับรู้สึกอบอุ่น มีสายลมเย็น ๆ แผ่วผ่านมา
๔. เสียงเห่เรือก้องกังวานตามผืนน้ำ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็นที่สาดแสงสีเหลืองทองจับเป็นประกายบริเวณหมู่ยอดเจดีย์
แล้วพบกันครั้งต่อไปนะคะ....
๓. เสียงผู้คนตะโกนดังก้องไปทั่วว่า "ทรงพระเจริญ" แสงแดดที่แผดกล้ากลับรู้สึกอบอุ่น มีสายลมเย็น ๆ แผ่วผ่านมา
๔. เสียงเห่เรือก้องกังวานตามผืนน้ำ ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็นที่สาดแสงสีเหลืองทองจับเป็นประกายบริเวณหมู่ยอดเจดีย์
แล้วพบกันครั้งต่อไปนะคะ....