วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2568

ข้อสอบพรรณนาโวหาร

     ยังจำกันได้ไหมคะ ว่า การเขียนพรรณนาโวหาร มีลักษณะอย่างไร

    วันนี้เรามาทบทวนความรู้เกี่ยวกับพรรณนาโวหาร กันสักเล็กน้อย ก่อนที่จะลองทำข้อสอบพรรณนาโวหารกันโดยเฉพาะเลยค่ะ

    พรรณนาโวหาร คือ โวหารที่ใช้กล่าวถึงเรื่องราว สถานที่ บุคคล สิ่งของ หรืออารมณ์อย่างละเอียด   สอดแทรกอารมณ์    ความรู้สึกลงไปเพื่อโน้มน้าวใจ   ให้ผู้รับสารเกิดภาพพจน์  เกิดอารมณ์คล้อยตามไปด้วย  ใช้ในการพูดโน้มน้าว อารมณ์ของผู้ฟัง  หรือเขียนสดุดี   ชมเมือง ชมความงามของบุคคล  สถานที่และแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ  เป็นต้น

    พรรณนาโวหาร มักจะพบในนิยาย และใช้ถ้อยคำที่สวยงาม  หรูหรา  เป็นการเปรียบเทียบกับสิ่งต่าง ๆ ทำให้ผู้อ่านเห็นรายละเอียดของภาพชัดเจนมากขึ้น เหมือนกับเราถ่ายภาพแล้วซูมภาพเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อให้เห็นรายละเอียดอย่างชัดเจน และภาษาที่ใช้พรรณนาจะไม่ใช้พูดคุยกันในชีวิตประจำวัน

มาดูตัวอย่าง การใช้พรรณนาโวหารกันจ้า

            "ดวงจันทร์บนท้องนภากลมโตราวกับจานกลมอันใหญ่  เมฆขาวดังเส้นด้ายลอยล่องซ่อนเร้นกึ่งหนึ่งของดวงเดือน  สงบเงียบเยือกเย็น  สาดสะท้อนทะเลสาบอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา"

            "ทะเลสาบอันกว้างไกล คลื่นน้ำรวดเร็วดังคลื่นทะเล ระลอกคลื่นกระทบฝั่งดังครืนครืน  ห่างจากชายฝั่งทะเลสาบไปไม่ไกลเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่มีดอกสีม่วงอ่อนบานสะพรั่ง  ลำต้นดังเหมย  กิ่งก้านคดเคี้ยว  ดอกที่กำลังผลิบานมีขนาดเท่ากับดอกท้อ รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนที่ปลายกิ่ง  ยามเมื่อลมพัด  กลีบดอกปลิวลอยล่อง  ร่วงหล่นใต้ต้นไม้ พัดไปตามชายฝั่งทะเลสาบ  ปลิดปลิวกระจัดกระจายดังสายฝนกลีบดอกไม้  ทิวทัศน์ช่างงดงามเหลือเกิน"  (ตัดข้อความมาจากนวนิยายจีน เรื่อง ลำนำบุปผาพิษ ของ มู่ตานเฟิง)

            ตัวอย่างทั้งสองข้อความนี้ เป็นบทชมความงามของธรรมชาติที่คนทั่วไปไม่ได้ใช้พูดในชีวิตประจำวัน เพราะค่อนข้างเยิ่นเย้อ มีคำเปรียบเทียบค่อนข้างมาก   จึงมักใช้ในการแต่งนิยายเป็นส่วนใหญ่

  ดูตัวอย่าง พรรณนาโวหารแล้ว   มาลองทำข้อสอบกันดูเลยค่ะ

๑.ข้อใดเป็นการเขียนพรรณนา

    ๑.หนังสือวรรณกรรมเยาวชนที่สร้างแรงบันดาลใจให้ฉันชอบอ่านหนังสือมี ๒ เล่ม คือ ต้นส้มแสนรัก และโต๊ะโตะจัง  เด็กหญิงข้างหน้าต่าง

    ๒.ป้ายชื่อของบ้านหนังสือทาสีแดงสดใสและตัวหนังสือสีขาวสะอาดเข้ากับประตูรั้วบ้านที่มีรูปหนังสือเรียงรายงดงามตระการตายิ่งนัก

    ๓.ผลงานที่เด็กภาคภูมิใจมากคือ การทำหน้ากากด้วยกระดาษเป็นรูปต่าง ๆ ลงสีตามจินตนาการ แล้วเจาะรูด้านข้าง สอดยางหนังสติ๊กคล้องหู

    ๔.บ้านของฉันเป็นบ้านโบราณครึ่งไม่ครึ่งตึกติดกับถนนใหญ่ มีสวนหลังบ้าน มีรั้วรอบบ้าน ด้านข้างบ้านเป็นคลอง มีชาวบ้านพายเรือขายของในคลอง

๒.ข้อใดเป็นการเขียนพรรณนา

    ๑.จามจุรีเป็นไม้ยืนต้นที่มีกิ่งก้านสาขาแผ่กว้างประดุจร่มขนาดใหญ่ให้ร่มเงาและความร่มเย็นสดชื่น

    ๒.กะเพรามีสรรพคุณช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจขาดเลือดได้

    ๓.แคคตัสเป็นพืชที่อยู่ในกลุ่มของไม้อวบน้ำ สามารถเก็บน้ำหรือความชื้นไว้ในส่วนต่าง ๆ ของลำต้น    ได้ดี

    ๔.การตัดแต่งกิ่งไม้พุ่มออกไปบ้างจะทำให้สัดส่วนของอาหารที่สะสมในต้นไม้เหมาะกับการออกดอกออกผล

๓.ข้อใดเป็นการเขียนพรรณนา

    ๑.คณะกรรมการพิจารณาให้มีการสร้างอาคารเรียนใหม่ เพื่อใช้รองรับการจัดห้องเรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์

    ๒.หญ้าสีเขียวเข้มมรกตในสนามกำลังพลิ้วสะบัดตามแรงลม โดยมีเหล่าฝูงนกบินหลงชมมา  เริงเล่นในพุ่มหญ้าอย่างสนุกสนานเบิกบานใจ

    ๓.เหล่าผู้คนต่างพากันรีบย้ายออกจากเมืองนี้ หลังมีการประกาศว่า พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโรคระบาดจำนวนหลายร้อยคน

    ๔.อากาศช่วงนี้ค่อนข้างเย็นสบาย เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงเหนือได้พัดพาความเย็นจากประเทศจีนมาสู่ประเทศไทย

๔.ข้อใดเป็นพรรณนาโวหาร

    ๑.วัดโบราณแลตะคุ่ม ๆ อยู่ในบรรยากาศที่ขมุกขมัว  พระวิหารหลวงดูสง่าสงบทึมทึบด้วยม่านฝนอยู่เนิ่นนาน

    ๒.หมู่บ้านอันไกลโพ้นมีวัดโบราณอยู่ในใจกลางหมู่บ้าน ถึงงานบุญใหญ่ ชาวบ้านต่างพากันเดินทางจากบ้านใกล้เคียงเพื่อมาร่วมทำบุญ

    ๓.เมืองสามท้าวปรากฏเรื่องราวในตำนานเก่าที่จารไว้ในคัมภีร์ใบลาน ว่าอยู่ไกลไปในหุบเขาห่างไกล อันชนเผ่าไม่เคยเข้าไปถึง

    ๔.เมืองอันใหญ่กว้างเป็นที่ตั้งของอารามในพระพุทธศาสนาฝ่ายอรัญวาสี เป็นแหล่งศึกษาพระไตรปิฎกสำหรับภิกษุจากเมืองใกล้เคียง

๕.  คำประพันธ์บาทใดใช้พรรณนาโวหาร

    ๑.  บาทที่ ๑   ปางเสด็จประเวศด้าว        ชลาลัย

    ๒.  บาทที่ ๒   ทรงรัตนพิมานชัย            กิ่งแก้ว

    ๓.  บาทที่ ๓   พรั่งพร้อมพวกพลไกร     แหนแห่

    ๔.  บาทที่ ๔  เรือกระบวนต้นแพร้ว        เพริศพริ้งพายทอง

๖. ข้อความบาทใดใช้พรรณนาโวหารด้วยวิธีเปรียบเทียบ

    บาทที่ ๑)   ลำพูดูหิ่งห้อย                     พรอยพราย

    บาทที่ ๒)  เหมือนเม็ดเพชรัตน์ราย     รอบก้อย

    บาทที่ ๓)  วับวับจับเนตรสาย               สวาทสบ   เนตรเอย

    บาทที่ ๔)  วับเช่นเห็นหิ่งห้อย               หับหม้านนานเห็น

       (หับ  หมายถึง  ปิด, งับ  /  หม้าน  เป็นคำโทโทษของคำว่า  ม่าน)

    ๑. บาทที่ ๑)  และบาทที่ ๓)

    ๒. บาทที่ ๑)  และบาทที่ ๔)

    ๓. บาทที่ ๒)  และบาทที่ ๓)

    ๔. บาทที่ ๒)  และบาทที่ ๔)


เฉลยจ้า

 ๑. ตอบข้อ ๒ เพราะสังเกตจากคำว่า "รูปหนังสือเรียงรายงดงามตระการตายิ่งนัก" ทำให้มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน

 ๒. ตอบข้อ ๑ เพราะสังเกตจากคำว่า ประดุจร่มขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการใช้อุปมาโวหารเปรียบเทียบ

๓. ตอบข้อ ๒ สังเกตจากการใช้คำที่หรูหรา "หญ้าสีเขียวเข้มมรกตในสนามกำลังพลิ้วสะบัดตามแรงลม"  มักเป็นคำที่พบในนิยายมากกว่าในชีวิตจริง

๔. ตอบข้อ ๑ สังเกตจากคำว่า "วัดโบราณแลตะคุ่ม ๆ อยู่ในบรรยากาศที่ขมุกขมัว  พระวิหารหลวงดูสง่าสงบทึมทึบด้วยม่านฝนอยู่เนิ่นนาน"   ส่วนข้ออื่น ๆ เป็นการใช้บรรยายโวหาร

๕. ตอบข้อ  ๔  เพราะมีการใช้คำว่า แพร้วเพริศพริ้ง  ซึ่งเป็นคำที่ไพเราะ แสดงความสวยงาม และเป็นคำที่ไม่ค่อยใช้ในการพูดประจำวัน

๖. ตอบข้อ ๔  คือ  บาทที่ ๒  มีคำว่า  "เหมือน"  และ บาทที่ ๔  มีคำว่า "เช่น" ซึ่งจากข้อความ มีความหมายว่า เหมือน