ยังจำกันได้ไหมคะ ว่า การเขียนพรรณนาโวหาร มีลักษณะอย่างไร
วันนี้เรามาทบทวนความรู้เกี่ยวกับพรรณนาโวหาร กันสักเล็กน้อย ก่อนที่จะลองทำข้อสอบพรรณนาโวหารกันโดยเฉพาะเลยค่ะ
พรรณนาโวหาร คือ โวหารที่ใช้กล่าวถึงเรื่องราว สถานที่ บุคคล สิ่งของ หรืออารมณ์อย่างละเอียด สอดแทรกอารมณ์ ความรู้สึกลงไปเพื่อโน้มน้าวใจ ให้ผู้รับสารเกิดภาพพจน์ เกิดอารมณ์คล้อยตามไปด้วย ใช้ในการพูดโน้มน้าว อารมณ์ของผู้ฟัง หรือเขียนสดุดี ชมเมือง ชมความงามของบุคคล สถานที่และแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ เป็นต้น
พรรณนาโวหาร มักจะพบในนิยาย และใช้ถ้อยคำที่สวยงาม หรูหรา เป็นการเปรียบเทียบกับสิ่งต่าง ๆ ทำให้ผู้อ่านเห็นรายละเอียดของภาพชัดเจนมากขึ้น เหมือนกับเราถ่ายภาพแล้วซูมภาพเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อให้เห็นรายละเอียดอย่างชัดเจน และภาษาที่ใช้พรรณนาจะไม่ใช้พูดคุยกันในชีวิตประจำวัน
มาดูตัวอย่าง การใช้พรรณนาโวหารกันจ้า
"ดวงจันทร์บนท้องนภากลมโตราวกับจานกลมอันใหญ่ เมฆขาวดังเส้นด้ายลอยล่องซ่อนเร้นกึ่งหนึ่งของดวงเดือน สงบเงียบเยือกเย็น สาดสะท้อนทะเลสาบอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา"
"ทะเลสาบอันกว้างไกล คลื่นน้ำรวดเร็วดังคลื่นทะเล ระลอกคลื่นกระทบฝั่งดังครืนครืน ห่างจากชายฝั่งทะเลสาบไปไม่ไกลเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่มีดอกสีม่วงอ่อนบานสะพรั่ง ลำต้นดังเหมย กิ่งก้านคดเคี้ยว ดอกที่กำลังผลิบานมีขนาดเท่ากับดอกท้อ รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนที่ปลายกิ่ง ยามเมื่อลมพัด กลีบดอกปลิวลอยล่อง ร่วงหล่นใต้ต้นไม้ พัดไปตามชายฝั่งทะเลสาบ ปลิดปลิวกระจัดกระจายดังสายฝนกลีบดอกไม้ ทิวทัศน์ช่างงดงามเหลือเกิน" (ตัดข้อความมาจากนวนิยายจีน เรื่อง ลำนำบุปผาพิษ ของ มู่ตานเฟิง)
ตัวอย่างทั้งสองข้อความนี้ เป็นบทชมความงามของธรรมชาติที่คนทั่วไปไม่ได้ใช้พูดในชีวิตประจำวัน เพราะค่อนข้างเยิ่นเย้อ มีคำเปรียบเทียบค่อนข้างมาก จึงมักใช้ในการแต่งนิยายเป็นส่วนใหญ่
ดูตัวอย่าง พรรณนาโวหารแล้ว มาลองทำข้อสอบกันดูเลยค่ะ
๑.ข้อใดเป็นการเขียนพรรณนา
๑.หนังสือวรรณกรรมเยาวชนที่สร้างแรงบันดาลใจให้ฉันชอบอ่านหนังสือมี ๒ เล่ม คือ ต้นส้มแสนรัก และโต๊ะโตะจัง เด็กหญิงข้างหน้าต่าง
๒.ป้ายชื่อของบ้านหนังสือทาสีแดงสดใสและตัวหนังสือสีขาวสะอาดเข้ากับประตูรั้วบ้านที่มีรูปหนังสือเรียงรายงดงามตระการตายิ่งนัก
๓.ผลงานที่เด็กภาคภูมิใจมากคือ การทำหน้ากากด้วยกระดาษเป็นรูปต่าง ๆ ลงสีตามจินตนาการ แล้วเจาะรูด้านข้าง สอดยางหนังสติ๊กคล้องหู
๔.บ้านของฉันเป็นบ้านโบราณครึ่งไม่ครึ่งตึกติดกับถนนใหญ่ มีสวนหลังบ้าน มีรั้วรอบบ้าน ด้านข้างบ้านเป็นคลอง มีชาวบ้านพายเรือขายของในคลอง
๒.ข้อใดเป็นการเขียนพรรณนา
๑.จามจุรีเป็นไม้ยืนต้นที่มีกิ่งก้านสาขาแผ่กว้างประดุจร่มขนาดใหญ่ให้ร่มเงาและความร่มเย็นสดชื่น
๒.กะเพรามีสรรพคุณช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจขาดเลือดได้
๓.แคคตัสเป็นพืชที่อยู่ในกลุ่มของไม้อวบน้ำ สามารถเก็บน้ำหรือความชื้นไว้ในส่วนต่าง ๆ ของลำต้น ได้ดี
๔.การตัดแต่งกิ่งไม้พุ่มออกไปบ้างจะทำให้สัดส่วนของอาหารที่สะสมในต้นไม้เหมาะกับการออกดอกออกผล
๓.ข้อใดเป็นการเขียนพรรณนา
๑.คณะกรรมการพิจารณาให้มีการสร้างอาคารเรียนใหม่ เพื่อใช้รองรับการจัดห้องเรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์
๒.หญ้าสีเขียวเข้มมรกตในสนามกำลังพลิ้วสะบัดตามแรงลม โดยมีเหล่าฝูงนกบินหลงชมมา เริงเล่นในพุ่มหญ้าอย่างสนุกสนานเบิกบานใจ
๓.เหล่าผู้คนต่างพากันรีบย้ายออกจากเมืองนี้ หลังมีการประกาศว่า พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโรคระบาดจำนวนหลายร้อยคน
๔.อากาศช่วงนี้ค่อนข้างเย็นสบาย เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงเหนือได้พัดพาความเย็นจากประเทศจีนมาสู่ประเทศไทย
๔.ข้อใดเป็นพรรณนาโวหาร
๑.วัดโบราณแลตะคุ่ม ๆ อยู่ในบรรยากาศที่ขมุกขมัว พระวิหารหลวงดูสง่าสงบทึมทึบด้วยม่านฝนอยู่เนิ่นนาน
๒.หมู่บ้านอันไกลโพ้นมีวัดโบราณอยู่ในใจกลางหมู่บ้าน ถึงงานบุญใหญ่ ชาวบ้านต่างพากันเดินทางจากบ้านใกล้เคียงเพื่อมาร่วมทำบุญ
๓.เมืองสามท้าวปรากฏเรื่องราวในตำนานเก่าที่จารไว้ในคัมภีร์ใบลาน ว่าอยู่ไกลไปในหุบเขาห่างไกล อันชนเผ่าไม่เคยเข้าไปถึง
๔.เมืองอันใหญ่กว้างเป็นที่ตั้งของอารามในพระพุทธศาสนาฝ่ายอรัญวาสี เป็นแหล่งศึกษาพระไตรปิฎกสำหรับภิกษุจากเมืองใกล้เคียง
๕. คำประพันธ์บาทใดใช้พรรณนาโวหาร
๑. บาทที่ ๑ ปางเสด็จประเวศด้าว ชลาลัย
๒. บาทที่ ๒ ทรงรัตนพิมานชัย กิ่งแก้ว
๓. บาทที่ ๓ พรั่งพร้อมพวกพลไกร แหนแห่
๔. บาทที่ ๔ เรือกระบวนต้นแพร้ว เพริศพริ้งพายทอง
๖. ข้อความบาทใดใช้พรรณนาโวหารด้วยวิธีเปรียบเทียบ
บาทที่ ๑) ลำพูดูหิ่งห้อย พรอยพราย
บาทที่ ๒) เหมือนเม็ดเพชรัตน์ราย รอบก้อย
บาทที่ ๓) วับวับจับเนตรสาย สวาทสบ เนตรเอย
บาทที่ ๔) วับเช่นเห็นหิ่งห้อย หับหม้านนานเห็น
(หับ หมายถึง ปิด, งับ / หม้าน เป็นคำโทโทษของคำว่า ม่าน)
๑. บาทที่ ๑) และบาทที่ ๓)
๒. บาทที่ ๑) และบาทที่ ๔)
๓. บาทที่ ๒) และบาทที่ ๓)
๔. บาทที่ ๒) และบาทที่ ๔)
เฉลยจ้า
๑. ตอบข้อ ๒ เพราะสังเกตจากคำว่า "รูปหนังสือเรียงรายงดงามตระการตายิ่งนัก" ทำให้มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน
๒. ตอบข้อ ๑ เพราะสังเกตจากคำว่า ประดุจร่มขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการใช้อุปมาโวหารเปรียบเทียบ
๓. ตอบข้อ ๒ สังเกตจากการใช้คำที่หรูหรา "หญ้าสีเขียวเข้มมรกตในสนามกำลังพลิ้วสะบัดตามแรงลม" มักเป็นคำที่พบในนิยายมากกว่าในชีวิตจริง
๔. ตอบข้อ ๑ สังเกตจากคำว่า "วัดโบราณแลตะคุ่ม ๆ อยู่ในบรรยากาศที่ขมุกขมัว พระวิหารหลวงดูสง่าสงบทึมทึบด้วยม่านฝนอยู่เนิ่นนาน" ส่วนข้ออื่น ๆ เป็นการใช้บรรยายโวหาร
๕. ตอบข้อ ๔ เพราะมีการใช้คำว่า แพร้วเพริศพริ้ง ซึ่งเป็นคำที่ไพเราะ แสดงความสวยงาม และเป็นคำที่ไม่ค่อยใช้ในการพูดประจำวัน
๖. ตอบข้อ ๔ คือ บาทที่ ๒ มีคำว่า "เหมือน" และ บาทที่ ๔ มีคำว่า "เช่น" ซึ่งจากข้อความ มีความหมายว่า เหมือน