วันศุกร์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2568

ข้อสอบ ความหมายโดยตรง ความหมายโดยนัย

 ทบทวนเนื้อหากันอีกที ก่อนไปทำข้อสอบจ้า

    คำหลายคำมักจะมีความหมายได้หลายความหมาย  ซึ่งความหมายที่ตรงตามตัวอักษร และมักเป็นความหมายแรกที่คนทั่วไปนึกออก  นั่นเรียกว่า  ความหมายโดยตรงของคำ   

เช่น  กา   อาจหมายถึง  กาน้ำ   หรือนกกา   ก็ได้ ซึ่งเป็นความหมายที่คนทั่วไปรู้จัก   

ตัวอย่าง  ๑  ฉันซื้อกาต้มน้ำไปใช้ที่บ้าน

ตัวอย่าง ๒  กาดำมักชอบสิ่งของที่แวววาว

    แต่ถ้าเรานึกถึงความหมายอื่น ๆ ที่คนมักนำไปเปรียบเทียบกับสิ่งอื่น ๆ หรือนำไปตีความหมายถึงอย่างอื่น นอกเหนือจากความหมายตามตัวอักษรแล้ว  ลักษณะนี้ เราเรียกว่า  ความหมายโดยนัยของคำ

เช่น   กา   อาจหมายถึง  ความต่ำต้อย  หรือ เป็นรอง เพื่อสื่อความไม่ดีหรือความต่ำต้อย        มักใช้ในความหมายเชิงลบ  

ตัวอย่าง  ๑  เขาดูไก่กาจังเลย   หมายถึง เขาดูต่ำต้อย ไร้ค่า

ตัวอย่าง ๒  กาอย่างเธอจะมาปะปนอยู่ในฝูงหงส์มันเหมาะแล้วหรือ    

    ทั้งนี้ หากเราต้องการทราบว่า คำนั้นเป็นความหมายโดยตรงหรือความหมายโดยนัย  เราต้องสังเกตดูจากบริบทของคำนั้น  หรือสังเกตจากการใช้คำในประโยค  ก็จะทำให้เราตีความคำนั้น ได้ถูกต้องตามเจตนาของผู้ส่งสารได้ค่ะ

หากต้องการศึกษาเนื้อหาเพิ่มเติม แวะอ่านได้ที่นี่ค่ะ 

https://www.blogger.com/blog/post/edit/4783005976235413037/7203497547754000014


มาฝึกทำข้อสอบกันเลยค่ะ

๑. ข้อใดใช้คำว่า "น้อง"  ในความหมายโดยตรง

    ๑. น้องคะ ห้องน้ำอยู่ไหนคะ            

    ๒.  คุณอาแดงเป็นน้องของพ่อเรา

    ๓. น้องนุ่นได้รับรางวัลเรียนดีทุกปี       

    ๔. ริจะเป็นโจรก็อย่างนี้แหละน้อง ต้องเจอตำรวจบ่อย


๒. ข้อใดมีทั้งคำที่มีความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย

    ๑. มือขวา , กระโถน

    ๒. น้ำดอกไม้ ,  รถถัง

    ๓. ลูกนก , เครื่องมือแพทย์

    ๔. ดาวเด่น , น้ำใจ


๓. คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดมีความหมายโดยนัย

    ๑. เสื้อเก่าตัวนี้เอาไปทำผ้าขี้ริ้วได้แล้ว

    ๒. เขาเคยเป็นเศรษฐีแต่ตอนนี้กลายเป็นหมาขี้เรื้อน

    ๓. สมัยโบราณใช้ขี้เลื่อยกลบน้ำแข็งช่วยให้ละลายช้า

    ๔. ถ้าเธอทำความสะอาด ดูเรื่องขี้ผงตรงซอกตู้ด้วยนะ


๔. ข้อใดมีความหมายโดยนัย

    ๑. เขามีอาชีพเป็นลูกหาบ

    ๒. แม่มีลูกมือทำขนมหลายคน

    ๓. ลูกพี่ของเด็กแว้นกลุ่มนี้ค่อนข้างมีเหตุผล

    ๔. ดาราตลกชื่อดังเป็นลูกบ้านของกำนันคนใหม่


๕. ข้อใดอธิบายความหมายของคำที่ขีดเส้นใต้ไม่ถูกต้อง

    ๑. "สมบัติ เป็นผู้ชายใจพระนำอาหารไปให้สุนัขจรจัดเสมอ"   

คำว่า  ใจพระ   หมายถึง  มีใจเมตตา

    ๒. "สิรินทิพย์ รู้สึกใจชื้น เมื่อผลการเรียนออกมาดีกว่าปีที่แล้ว"

คำว่า  ใจชื้น   หมายถึง  รู้สึกเบาใจ

    ๓. "สิทธิโชค มีนิสัยใจนักเลง  ลูกน้องจึงต่างเคารพยำเกรง"

คำว่า  ใจนักเลง  หมายถึง  มิใจหยาบช้า

    ๔. "สุนิสา เป็นคนใจอ่อน ยอมจ่ายเงินเมื่อน้องรบเร้าอยากได้ของเล่น"

คำว่า   ใจอ่อน   หมายถึง  ยอมง่าย


๖. ข้อใดมีคำที่ใช้ได้ทั้งความหมายโดยตรงและความหมายโดยนัย

    ๑. แก้ต่าง,   แก้เผ็ด

    ๒. เอาชัย , เอาถ่าน

    ๓. คอขวด , คอแข็ง

    ๔. เข้ารีต , เข้าฌาน


๗. ข้อใดไม่มีความหมายโดยนัย

    ๑. เธออย่านั่งกินที่

    ๒. ฉันชอบกินเส้นใหญ่

    ๓. เพลงนี้มีเนื้อหากินใจ

    ๔. รถคันนี้กินน้ำมันมาก


๘. ข้อใดมีความหมายโดยนัยไม่สอดคล้องที่จะเติมในช่องว่างที่กำหนดให้   "การแก้ปัญหาความขัดแย้งในหน่วยงานจะสำเร็จลุล่วงได้หากทุกคน.................."

    ๑. จับเข่าคุยกัน

    ๒. เปิดอกคุยกัน

    ๓. หันหน้าเข้าหากัน

    ๔. สวมหน้ากากเข้าหากัน


๙. โคลงสี่สุภาพต่อไปนี้ บาทใดมีคำที่มีความหมายโดยนัย

        เพื่อนกินสิ้นทรัพย์แล้ว      แหนงหนี

    หาง่ายหลายหมื่นมี                มากได้

    เพื่อนตายถ่ายแทนชี-            วาอาตม์

    หายากฝากผีไข้                     ยากแท้จักหา

    ๑. บาทที่ ๑ - ๒ - ๓

    ๒. บาทที่ ๒ - ๓ - ๔

    ๓. บาทที่ ๑ - ๓ - ๔

    ๔. บาทที่ ๒ - ๔ - ๑


๑๐. คำที่ขีดเส้นใต้ในข้อใดใช้ความหมายตรง

    ๑. นักมวยฝ่ายแดงเพลี่ยงพล้ำตกเป็นเบี้ยล่างนักมวยฝ่ายน้ำเงิน

    ๒. ลูกน้องยืมเงินไปหนึ่งหมื่นแต่ผ่อนใช้เป็นเบี้ยหัวแตกเดือนละ ๕๐๐ บาท

    ๓. ครูที่ไปปฏิบัติงานในโรงเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ จะได้รับเบี้ยกันดารด้วย

    ๔. กว่าจะเจรจาเรื่องนี้ได้สำเร็จ เขาต้องเสียเบี้ยบ้ายรายทางไปไม่ใช่น้อย


เฉลยคำตอบกันจ้า

๑. ตอบข้อ ๒  เพราะ คุณอาแดงเป็นน้องของพ่อเรา    น้องของพ่อก็คือ อานั่นเอง

๒. ตอบข้อ  ๑  เพราะ คำว่า มือขวา  ความหมายตรง คือ มือข้างขวา

                           คำว่า  มือขวา   ความหมายโดยนัย คือ ลูกน้องคนสนิท

                           คำว่า กระโถน  ความหมายตรง คือ ภาชนะปากกว้างสำหรับ

                            รองรับสิ่งที่ไม่ต้องการก่อนนำไปทิ้ง เช่น น้ำหมาก 

                            คำว่า   กระโถน   ความหมายโดยนัย  คือ ผู้ที่ต้องคอยรับภาระ

                            งาน หรือรับอารมณ์ของผู้อื่นอยู่คนเดียว เป็นสำนวนที่ใช้เรียกคนที่

                            ตกเป็นเหยื่อ

๓. ตอบข้อ ๒  เพราะเป็นคำเปรียบเทียบคนที่ตกอับ  ส่วนข้ออื่น ๆ ข้อความในประโยค

                         มีความหมายโดยตรง ทั้งนี้ต้องดูเนื้อหาในประโยคด้วย

๔. ตอบข้อ ๓  เพราะ คำว่า ลูกพี่  หมายถึง หัวหน้า  ไม่ได้หมายถึง ลูกของพี่เรา

๕. ตอบข้อ ๓   คำว่า  ใจนักเลง  หมายถึง ใจคอกว้างขวาง  กล้าได้กล้าเสีย   

                          หนักแน่น ไม่เกรงกลัวใคร  แต่ในคำถามบอกว่า หมายถึง มีใจหยาบช้า

                          ซึ่งไม่ถูกต้อง

๖. ตอบข้อ ๓   คำว่า  คอขวด  ความหมายตรง คือ  ส่วนที่แคบของขวด  หรือ ถนน หรือ

                         ลำน้ำ   

                          คำว่า   คอขวด   ความหมายโดยนัย  หมายถึง  อุปสรรค  หรือ จุดที่

                           แออัดหรือข้อจำกัดที่ทำให้ระบบใด ๆ ทำงานได้ช้าลง

                           คำว่า  คอแข็ง  ความหมายตรง คือ อาการปวดหรือตึงบริเวณคอ ทำให้

                           เคลื่อนไหวลำบาก 

                           คำว่า  คอแข็ง   ความหมายโดยนัย  คือ การดื่มสุราในปริมาณมาก

                         โดยที่ไม่มีอาการเมา   หรือ ใช้กับคนที่หยิ่งยโส   ดื้อรั้นก็ได้

๗.  ตอบข้อ ๒   ฉันชอบกินเส้นใหญ่   เป็นคำที่มีความหมายโดยตรงตามรูปประโยค

๘.  ตอบข้อ ๔  เพราะ สำนวน  สวมหน้ากากเข้าหากัน  หมายถึง การหลอกลวง

๙. ตอบข้อ  ๓    บาทที่ ๑ - ๓ - ๔

            เพื่อนกินสิ้นทรัพย์แล้ว      แหนงหนี            (บาทที่ ๑)  

        หาง่ายหลายหมื่นมี                มากได้               (บาทที่ ๒)

        เพื่อนตายถ่ายแทนชี-            วาอาตม์             (บาทที่ ๓)

        หายากฝากผีไข้                     ยากแท้จักหา    (บาทที่ ๔)

(เพื่อนกิน  ความหมายโดยนัย  คือ  เพื่อนที่คบกันเพราะผลประโยชน์

เพื่อนตาย   ความหมายโดยนัย  คือ เพื่อนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเรา ไม่ทอดทิ้งกัน

ฝากผีไข้  หรือ ฝากผีฝากไข้   ความหมายโดยนัย  คือ  การฝากชีวิตเราไว้กับใครสักคน  ให้เขาช่วยดูแลเมื่อเราเจ็บป่วย )

๑๐. ตอบข้อ  ๓   เบี้ยกันดาร   ความหมายตรง คือ เงินที่ได้รับเมื่อไปอยู่ในถิ่นกันดาร

                          ส่วนข้ออื่น ๆ ผิด เพราะ  เบี้ยล่าง  ความหมายโดยนัย  คือ ตกเป็นรอง

                            เบี้ยหัวแตก  ความหมายโดยนัย  คือ เงินที่ได้มาทีละน้อยแล้วใช้จ่าย

                            หมดไปโดยไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

                            เบี้ยบ้ายรายทาง   ความหมายโดยนัย  คือ ค่าใช้จ่ายย่อย ๆ หรือ 

                            ค่าใช้จ่ายแฝงที่เกิดขึ้นระหว่างการดำเนินการ






วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2568

ข้อสอบพรรณนาโวหาร

     ยังจำกันได้ไหมคะ ว่า การเขียนพรรณนาโวหาร มีลักษณะอย่างไร

    วันนี้เรามาทบทวนความรู้เกี่ยวกับพรรณนาโวหาร กันสักเล็กน้อย ก่อนที่จะลองทำข้อสอบพรรณนาโวหารกันโดยเฉพาะเลยค่ะ

    พรรณนาโวหาร คือ โวหารที่ใช้กล่าวถึงเรื่องราว สถานที่ บุคคล สิ่งของ หรืออารมณ์อย่างละเอียด   สอดแทรกอารมณ์    ความรู้สึกลงไปเพื่อโน้มน้าวใจ   ให้ผู้รับสารเกิดภาพพจน์  เกิดอารมณ์คล้อยตามไปด้วย  ใช้ในการพูดโน้มน้าว อารมณ์ของผู้ฟัง  หรือเขียนสดุดี   ชมเมือง ชมความงามของบุคคล  สถานที่และแสดงอารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ  เป็นต้น

    พรรณนาโวหาร มักจะพบในนิยาย และใช้ถ้อยคำที่สวยงาม  หรูหรา  เป็นการเปรียบเทียบกับสิ่งต่าง ๆ ทำให้ผู้อ่านเห็นรายละเอียดของภาพชัดเจนมากขึ้น เหมือนกับเราถ่ายภาพแล้วซูมภาพเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อให้เห็นรายละเอียดอย่างชัดเจน และภาษาที่ใช้พรรณนาจะไม่ใช้พูดคุยกันในชีวิตประจำวัน

มาดูตัวอย่าง การใช้พรรณนาโวหารกันจ้า

            "ดวงจันทร์บนท้องนภากลมโตราวกับจานกลมอันใหญ่  เมฆขาวดังเส้นด้ายลอยล่องซ่อนเร้นกึ่งหนึ่งของดวงเดือน  สงบเงียบเยือกเย็น  สาดสะท้อนทะเลสาบอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา"

            "ทะเลสาบอันกว้างไกล คลื่นน้ำรวดเร็วดังคลื่นทะเล ระลอกคลื่นกระทบฝั่งดังครืนครืน  ห่างจากชายฝั่งทะเลสาบไปไม่ไกลเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่มีดอกสีม่วงอ่อนบานสะพรั่ง  ลำต้นดังเหมย  กิ่งก้านคดเคี้ยว  ดอกที่กำลังผลิบานมีขนาดเท่ากับดอกท้อ รวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนที่ปลายกิ่ง  ยามเมื่อลมพัด  กลีบดอกปลิวลอยล่อง  ร่วงหล่นใต้ต้นไม้ พัดไปตามชายฝั่งทะเลสาบ  ปลิดปลิวกระจัดกระจายดังสายฝนกลีบดอกไม้  ทิวทัศน์ช่างงดงามเหลือเกิน"  (ตัดข้อความมาจากนวนิยายจีน เรื่อง ลำนำบุปผาพิษ ของ มู่ตานเฟิง)

            ตัวอย่างทั้งสองข้อความนี้ เป็นบทชมความงามของธรรมชาติที่คนทั่วไปไม่ได้ใช้พูดในชีวิตประจำวัน เพราะค่อนข้างเยิ่นเย้อ มีคำเปรียบเทียบค่อนข้างมาก   จึงมักใช้ในการแต่งนิยายเป็นส่วนใหญ่

  ดูตัวอย่าง พรรณนาโวหารแล้ว   มาลองทำข้อสอบกันดูเลยค่ะ

๑.ข้อใดเป็นการเขียนพรรณนา

    ๑.หนังสือวรรณกรรมเยาวชนที่สร้างแรงบันดาลใจให้ฉันชอบอ่านหนังสือมี ๒ เล่ม คือ ต้นส้มแสนรัก และโต๊ะโตะจัง  เด็กหญิงข้างหน้าต่าง

    ๒.ป้ายชื่อของบ้านหนังสือทาสีแดงสดใสและตัวหนังสือสีขาวสะอาดเข้ากับประตูรั้วบ้านที่มีรูปหนังสือเรียงรายงดงามตระการตายิ่งนัก

    ๓.ผลงานที่เด็กภาคภูมิใจมากคือ การทำหน้ากากด้วยกระดาษเป็นรูปต่าง ๆ ลงสีตามจินตนาการ แล้วเจาะรูด้านข้าง สอดยางหนังสติ๊กคล้องหู

    ๔.บ้านของฉันเป็นบ้านโบราณครึ่งไม่ครึ่งตึกติดกับถนนใหญ่ มีสวนหลังบ้าน มีรั้วรอบบ้าน ด้านข้างบ้านเป็นคลอง มีชาวบ้านพายเรือขายของในคลอง

๒.ข้อใดเป็นการเขียนพรรณนา

    ๑.จามจุรีเป็นไม้ยืนต้นที่มีกิ่งก้านสาขาแผ่กว้างประดุจร่มขนาดใหญ่ให้ร่มเงาและความร่มเย็นสดชื่น

    ๒.กะเพรามีสรรพคุณช่วยลดอาการจุกเสียดแน่นท้อง ช่วยป้องกันโรคมะเร็งและโรคหัวใจขาดเลือดได้

    ๓.แคคตัสเป็นพืชที่อยู่ในกลุ่มของไม้อวบน้ำ สามารถเก็บน้ำหรือความชื้นไว้ในส่วนต่าง ๆ ของลำต้น    ได้ดี

    ๔.การตัดแต่งกิ่งไม้พุ่มออกไปบ้างจะทำให้สัดส่วนของอาหารที่สะสมในต้นไม้เหมาะกับการออกดอกออกผล

๓.ข้อใดเป็นการเขียนพรรณนา

    ๑.คณะกรรมการพิจารณาให้มีการสร้างอาคารเรียนใหม่ เพื่อใช้รองรับการจัดห้องเรียนวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์

    ๒.หญ้าสีเขียวเข้มมรกตในสนามกำลังพลิ้วสะบัดตามแรงลม โดยมีเหล่าฝูงนกบินหลงชมมา  เริงเล่นในพุ่มหญ้าอย่างสนุกสนานเบิกบานใจ

    ๓.เหล่าผู้คนต่างพากันรีบย้ายออกจากเมืองนี้ หลังมีการประกาศว่า พบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโรคระบาดจำนวนหลายร้อยคน

    ๔.อากาศช่วงนี้ค่อนข้างเย็นสบาย เนื่องจากลมตะวันออกเฉียงเหนือได้พัดพาความเย็นจากประเทศจีนมาสู่ประเทศไทย

๔.ข้อใดเป็นพรรณนาโวหาร

    ๑.วัดโบราณแลตะคุ่ม ๆ อยู่ในบรรยากาศที่ขมุกขมัว  พระวิหารหลวงดูสง่าสงบทึมทึบด้วยม่านฝนอยู่เนิ่นนาน

    ๒.หมู่บ้านอันไกลโพ้นมีวัดโบราณอยู่ในใจกลางหมู่บ้าน ถึงงานบุญใหญ่ ชาวบ้านต่างพากันเดินทางจากบ้านใกล้เคียงเพื่อมาร่วมทำบุญ

    ๓.เมืองสามท้าวปรากฏเรื่องราวในตำนานเก่าที่จารไว้ในคัมภีร์ใบลาน ว่าอยู่ไกลไปในหุบเขาห่างไกล อันชนเผ่าไม่เคยเข้าไปถึง

    ๔.เมืองอันใหญ่กว้างเป็นที่ตั้งของอารามในพระพุทธศาสนาฝ่ายอรัญวาสี เป็นแหล่งศึกษาพระไตรปิฎกสำหรับภิกษุจากเมืองใกล้เคียง

๕.  คำประพันธ์บาทใดใช้พรรณนาโวหาร

    ๑.  บาทที่ ๑   ปางเสด็จประเวศด้าว        ชลาลัย

    ๒.  บาทที่ ๒   ทรงรัตนพิมานชัย            กิ่งแก้ว

    ๓.  บาทที่ ๓   พรั่งพร้อมพวกพลไกร     แหนแห่

    ๔.  บาทที่ ๔  เรือกระบวนต้นแพร้ว        เพริศพริ้งพายทอง

๖. ข้อความบาทใดใช้พรรณนาโวหารด้วยวิธีเปรียบเทียบ

    บาทที่ ๑)   ลำพูดูหิ่งห้อย                     พรอยพราย

    บาทที่ ๒)  เหมือนเม็ดเพชรัตน์ราย     รอบก้อย

    บาทที่ ๓)  วับวับจับเนตรสาย               สวาทสบ   เนตรเอย

    บาทที่ ๔)  วับเช่นเห็นหิ่งห้อย               หับหม้านนานเห็น

       (หับ  หมายถึง  ปิด, งับ  /  หม้าน  เป็นคำโทโทษของคำว่า  ม่าน)

    ๑. บาทที่ ๑)  และบาทที่ ๓)

    ๒. บาทที่ ๑)  และบาทที่ ๔)

    ๓. บาทที่ ๒)  และบาทที่ ๓)

    ๔. บาทที่ ๒)  และบาทที่ ๔)


เฉลยจ้า

 ๑. ตอบข้อ ๒ เพราะสังเกตจากคำว่า "รูปหนังสือเรียงรายงดงามตระการตายิ่งนัก" ทำให้มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจน

 ๒. ตอบข้อ ๑ เพราะสังเกตจากคำว่า ประดุจร่มขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการใช้อุปมาโวหารเปรียบเทียบ

๓. ตอบข้อ ๒ สังเกตจากการใช้คำที่หรูหรา "หญ้าสีเขียวเข้มมรกตในสนามกำลังพลิ้วสะบัดตามแรงลม"  มักเป็นคำที่พบในนิยายมากกว่าในชีวิตจริง

๔. ตอบข้อ ๑ สังเกตจากคำว่า "วัดโบราณแลตะคุ่ม ๆ อยู่ในบรรยากาศที่ขมุกขมัว  พระวิหารหลวงดูสง่าสงบทึมทึบด้วยม่านฝนอยู่เนิ่นนาน"   ส่วนข้ออื่น ๆ เป็นการใช้บรรยายโวหาร

๕. ตอบข้อ  ๔  เพราะมีการใช้คำว่า แพร้วเพริศพริ้ง  ซึ่งเป็นคำที่ไพเราะ แสดงความสวยงาม และเป็นคำที่ไม่ค่อยใช้ในการพูดประจำวัน

๖. ตอบข้อ ๔  คือ  บาทที่ ๒  มีคำว่า  "เหมือน"  และ บาทที่ ๔  มีคำว่า "เช่น" ซึ่งจากข้อความ มีความหมายว่า เหมือน